ม.บูรพา จัดการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 12 โดยมีนักเรียนที่คัดเลือกแล้วจากทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 106 คน เพื่อเป็นการพัฒนามาตรฐานการศึกษาทางด้านเคมีให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ
คลิป ม.บูรพา จัดแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 12
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่ตึกคณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา อ.เมือง จ.ชลบุรี รองศาสตราจารย์พินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) เป็นประธานเปิด โดยมีคณะอาจารย์ของ ม.บูรพา ให้การต้อนรับ และมีนักเรียนจากศูนย์ สอวน. 14 ศูนย์ทั่วประเทศ จำนวน 106 คน ร่วมแข่งขันครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 6-10 มิถุนายน พ.ศ.2559 นี้
การแข่งขันครั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนามาตรฐานการศึกษาทางด้านเคมีให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญมา ไทยก้าว รักษาการแทนรองอธิการบดี ม.บูรพา กล่าวว่า การจัดการแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกนักเรียนที่มีศักยภาพสูงด้านวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการเข้าร่วมการแข่งขันเคมีโอลิมปิกในระดับนานาชาติ
โดยครั้งนี้ ม.บูรพา เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน |
โดยครั้งนี้ ศูนย์มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) จำนวน 14 ศูนย์ทั่วประเทศ ได้คัดเลือกนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สายวิทยาศาสตร์ เข้าค่ายอบรมทางวิชาการสาขาวิชาเคมี เพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ และทักษะทางสาขาวิชาเคมีจากคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ
โดยมีนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 106 คน มาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ และนักเรียนที่ผ่านการแข่งขันโอลิมปิกดังกล่าวจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาการศึกษา ค้นคว้าวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์เคมีของประเทศให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นในอนาคต
นักเรียนจากทั่วประเทศ 106 คน แข่งขันครั้งนี้ |
ด้านรองศาสตราจารย์พินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการมูลนิธิ สอวน.กล่าวว่า การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนามาตรฐานการศึกษาทางด้านเคมีให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ และเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริม และพัฒนาการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เยาวชนของชาติตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์สาขาเคมี และจะเป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาประเทศชาติในอนาคตต่อไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000056664
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น