แอร์การ์ด

แอร์การ์ด
ท่องโลกอินเตอร์เน็ทง่ายกว่าที่คุณคิด

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ด็อกเตอร์ วันชัย ยิงตัว นายกชี้เป็นอุทาหรณ์ จี้เป็นบททบทวนแผนการเหล่านี้!?

ด็อกเตอร์ วันชัย

ชี้เป็น‘อุทาหรณ์’ นายกฯจี้ทบทวน แผนการปฏิบัติ

พล.ต.สรรเสริญ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผย นายกรัฐมนตรีเตือนให้ทุกฝ่ายถือกรณีด็อกเตอร์ ผู้ต้องหาคดีฆ่า 2 ด็อกเตอร์ก่อเหตุยิงตัวตายไว้เป็นบทเรียนสังคมไทย ติงสื่อมวลชนควรปรับการเสนอข่าวให้สมดุลและเหมาะสม ด้านญาติรับศพ ด็อกเตอร์ วันชัย มือปืนไปบำเพ็ญกุศลที่วัดกลางคลองสี่ จ.ปทุมธานี ตามข้อความสั่งเสีย ส่วน พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวรู้สึกเสียใจที่ช่วยชีวิตไม่สำเร็จ ระหว่างเจรจาผู้ตายบอก “กลัวถูกประหารชีวิต” และเหตุไม่บุกเข้าชาร์จ เนื่องจากเกรงว่าญาติและชุดเกลี้ยกล่อมโดนลูกหลงเสียชีวิต

จากกรณี ด็อกเตอร์ วันชัย ดนัยตโมนุท อายุ 60 ปี อาจารย์ประจำวิทยาลัยการฝึกหัดครู สาขาการบริหารการศึกษา หลักสูตรปริญญาโท มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ใช้ปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงศีรษะ 2 ด็อกเตอร์ ผศ.ดร.พิชัย ไชยสงคราม อายุ 56 ปี ประธานสาขาวิชาบริหารการศึกษาบัณฑิตวิทยาลัย และ ดร.ณัฐพล ชุมวรฐายี อายุ 54 ปี ผอ.สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เสียชีวิตคา ม.ราชภัฏพระนคร สาเหตุจากความขัดแย้งส่วนตัว ต่อมาวันที่ 19 พ.ค. หลังเกิดเหตุ 1 วัน ตำรวจกองปราบปรามร่วมกับนครบาล นำกำลังปิดล้อมโรงแรมสุภาพ ย่านสะพานควาย หลังสืบทราบว่าด็อกเตอร์ปืนโหดหลบหนีมากบดานอยู่ ขณะเข้าจับกุม ด็อกเตอร์ วันชัย ขับรถเก๋งนิสสัน อัลเมร่า สีน้ำตาล ทะเบียน ฆน 3398 กรุงเทพมหานคร กำลังออกจากโรงแรม จึงเกลี้ยกล่อมให้มอบตัวนานเกือบ 7 ชม. แต่ผู้ต้องหาตัดสินใจใช้ปืนที่ใช้ก่อคดี ระเบิดสมองฆ่าตัวตายหนีอาญา

ความคืบหน้า ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 20 พ.ค. นายศุภชัย หรือเฮียเฮง พันธ์เกาะเลิ่ง อายุ 68 ปี พร้อมญาติผู้ตายรวม 4 คน เดินทางมาติดต่อรับศพ ด็อกเตอร์ วันชัย ไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดกลางคลองสี่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมทั้งนำเครื่องแต่งกาย ได้แก่ เสื้อแขนยาวลายทางสีเทาดำ เนคไทสีเทา กางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าหนัง มาสวมใส่ให้ผู้ตาย ญาติผู้ตายมีท่าทางไม่พอใจ ตำหนิสื่อมวลชน กรณีที่มีการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ขณะเกลี้ยกล่อม ด็อกเตอร์ วันชัย ให้เข้ามอบตัวกับตำรวจที่โรงแรมสุภาพก่อนอัตวินิบาตกรรม

พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชฯ รพ.ตร. เปิดเผยว่า ทีมแพทย์ผ่าชันสูตรพลิกศพเรียบร้อยเมื่อตอนเที่ยง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากบาดแผลของกระสุนปืนทำลายสมอง มีบาดแผลถูกยิงจากศีรษะเหนือใบหูด้านขวาทะลุซ้าย 1 แผล ตรวจร่างกายยังไม่พบสิ่งปกติใดๆ การชันสูตรพลิกศพในลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากเป็นการฆ่าตัวตายปกติทั่วไป

ที่ สน.บางซื่อ พ.ต.ท.นิติเวช เสาะแสวง รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางซื่อ กล่าวว่า ญาติของ ด็อกเตอร์ วันชัยมาติดต่อการขอออกใบมรณะบัตร พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนคดีพนักงานสอบสวนจะรวบรวมหลักฐานต่างๆ อาทิ รถเก๋งของ ด็อกเตอร์ วันชัย กระสุนปืนขนาด 9 มม. ที่พบภายในรถ และปืนที่ ด็อกเตอร์ วันชัย ใช้ยิงตัวตาย ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจพิสูจน์ ก่อนจะสรุปสำนวนคดีให้ สน.บางเขน เจ้าของคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 กล่าวว่า สำนวนการสอบสวนคดีที่ ด็อกเตอร์ วันชัย ก่อเหตุยิง ผศ.ดร.พิชัย และ ดร.ณัฐพล เสียชีวิต ตามหมายจับศาลอาญาข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร พนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆตามปกติในเมื่อผู้ต้องหายิงตัวเองเสียชีวิตแล้ว ตามขั้นตอนของกฎหมายก็จะไม่มีการสั่งฟ้อง ตามประมวลกฎหมาย ป.วิ.อาญา ส่วนคดีที่ ด็อกเตอร์ วันชัย ก่อเหตุยิงตัวตายอยู่ในท้องที่ สน.บางซื่อ พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ จะดำเนินการนำสำนวนการชันสูตรศพส่งให้ศาลอาญาตามขั้นตอนต่อไป

ต่อมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. หนึ่งในชุดเจรจาเกลี้ยกล่อม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุยิง 2 ด็อกเตอร์เสียชีวิต ด็อกเตอร์ วันชัย ผู้ก่อเหตุส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ถึงเฮียเฮง มีฐานะเป็นพี่ชาย สั่งเสียว่าหากเจ้าตัวเสียชีวิตให้นำศพไปไว้ที่วัดแห่งหนึ่งย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี สวดศพ 3 วัน ก่อนเผา ตนสั่งให้ระดมชุดสืบสวน บก.น.2 และชุดสืบสวน บช.น. ไปค้นหาตามที่ต่างๆที่คาดว่า ด็อกเตอร์ วันชัย อาจหนีไปหลบซ่อนแต่ก็ไม่พบ ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค. ตนประชุมคดีและสอบปากคำอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เกี่ยวกับสาเหตุปมขัดแย้ง จากนั้นเวลา 11.06 น. ได้รับการประสานจากลูกสาวเฮียเฮงว่า ด็อกเตอร์ วันชัย ส่งอีเมลมาเล่าถึงปมขัดแย้ง ทางชุดสืบสวน ทราบว่า ด็อกเตอร์ วันชัย อยู่ที่โรงแรมสุภาพ จึงระดมตำรวจกองปราบปราม และชุดสืบสวนนครบาลรุดไปตรวจสอบ

รรท.ผบช.น. กล่าวต่อว่า ตนไปถึงที่โรงแรมสุภาพเห็น ด็อกเตอร์ วันชัย ยืนอยู่ในสภาพอิดโรยและมีอาการเครียด มือขวาถือปืนขนาด 9 มม. จ่อขมับตัวเองตลอดเวลา ประเมินสถานการณ์แล้วไม่มีการจี้ตัวประกัน จึงไม่อยากใช้วิธีการรุนแรง เพราะอาจมีการสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย และเริ่มเจรจาต่อรองให้วางปืนลง โดยให้ญาติพี่น้องกับคนที่ ด็อกเตอร์ วันชัย ไว้ใจที่สุดมาเกลี้ยกล่อม เอาน้ำและบุหรี่ให้ สัญญาว่าจะให้ความเป็นธรรม ขณะนั้น ด็อกเตอร์ วันชัย ก็มีท่าทีผ่อนคลายลง

เมื่อถามว่า ทำไมถึงไม่บุกเข้าจู่โจมจังหวะที่ลดปืนลง พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ไม่อยากใช้วิธีการที่รุนแรง เขาไม่มีตัวประกัน เราประเมินแล้วหากจู่โจมญาติและผู้ที่เจรจาเกลี้ยกล่อมอาจโดนลูกหลง และเกิดสูญเสียมากกว่านี้ เราถามตลอดว่าอยากได้อะไร เขาก็บอกว่าไม่อยากได้อะไร ขอโทษที่ทำให้ทุกท่านลำบาก เขาพูดว่า กลัวติดคุก กลัวถูกประหารชีวิต และพูดตลอดว่า “ผมขอละสังขาร” จากนั้นก้มลงมองนาฬิกา ก่อนจะตัดสินใจทำร้ายตัวเอง พวกเราก็ทำดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ยังรู้สึกเสียใจที่ช่วยชีวิต ด็อกเตอร์ วันชัย ไม่ได้ อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ด้วย

ทางด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์การยิงตัวเองของ ด็อกเตอร์ วันชัย ดนัยตโมนุท สื่อมวลชนมีการนำเสนอข่าวอย่างเกาะติด หลายสื่อออกอากาศสดต่อเนื่องเป็นเวลานานว่า ถือเป็นเรื่องเศร้าสลด และไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับบุคคลใด ขอให้ถือเอาเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญสำหรับทุกฝ่ายในสังคมไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุ ต้องมีการวางแผนรับสถานการณ์ในภาวะวิกฤติที่ดี ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพื่อช่วยลดโอกาสความสูญเสีย อาทิ การมีนักจิตวิทยาเข้าร่วมในการเจรจา หรือมีแผนสำรองกรณีการเจรจาไม่เป็นผล

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้หลายฝ่ายคงมีความเห็นตรงกันว่า การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในครั้งนี้ ควรต้องมีการปรับและเปลี่ยนแปลง เป็นกรณีศึกษาที่จะต้องหาความสมดุล และความเหมาะสม ระหว่างการทำหน้าที่ของสื่อกับการนำเสนอเนื้อหาที่เข้าข่ายรุนแรง สร้างผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนในสังคม ที่สำคัญคือต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า การกระทำดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันให้แก่ผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหรือไม่ รวมทั้งให้ความเคารพต่อความเป็นมนุษย์ของผู้ร่วมในเหตุการณ์เพียงพอหรือไม่ และควรถือเป็นโอกาส ให้หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแล การทำหน้าที่ของสื่อ และองค์กรวิชาชีพ ได้ทบทวนและวางแผน เพื่อสร้างระบบการควบคุมหรือเซนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพอย่างทันท่วงที เมื่อเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เข้าข่ายก้าวล่วงละเมิดเส้นความพอดี และอาจผิดข้อกฎหมาย

พล.ต.สรรเสริญกล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีแนะนำว่า จากเหตุการณ์นี้ต้องขอความร่วมมือจากสถาบันครอบครัว และสถาบันการศึกษา ให้เข้ามามีบทบาทในการช่วยอธิบายสร้างความเข้าใจให้เด็กเยาวชน ที่อาจชมการเผยแพร่ข่าวจากสื่อ หรือผ่านช่องทางอื่นในโซเชียลมีเดีย ให้รู้ว่าเป็นสิ่งที่อันตรายและไม่ควรเลียนแบบ ในส่วนของคนไทยทุกคนล้วนได้บทเรียนที่ควรมีสติเป็นเครื่องกำกับการกระทำของตน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะผู้กระทำต่อผู้อื่น ที่ควรมีความเมตตาปรานี เห็นอกเห็นใจ ให้เกียรติ หรืออยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำ ควรมีสติรู้วิธีจัดการอารมณ์ ผ่องถ่ายความไม่พอใจ ความคับแค้นใจ ไปในทางที่สร้างสรรค์และไม่ทำร้ายตนเอง


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/content/623468

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น